1. น้ำหนักวิญญาณ
เชื่อ หรือไม่คะว่าวิญญาณของพวกเราก็มีน้ำหนักด้วยเหมือนกันนักวิทยาศาสตร์ทดลอง ชั่งน้ำหนักของวิญญาณโดยชั่งน้ำหนักของคนในขณะที่มีชีวิตอยู่เปรียบเทียบกับ น้ำหนักหลังจากเสียชีวิตทันทีพบว่าน้ำหนักหายไป 21 กรัม จึงสรุปว่าดวงวิญญาณของพวกเรามีน้ำหนัก 21 กรัมด้วย
2. สารฆ่าความเจ็บปวด
เคย สังเกตไหมว่าทำไมบางครั้งนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการแข่งขันยัง สามารถลงแข่งขันได้จนจบหรือทหารที่ได้รับบาดเจ็บในสนามรบยังคงทนต่อสู้ข้า ศึกอยู่ได้พวกเขาไม่เจ็บกันหรือนักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วค่ะว่าเมื่อมนุษย์ เผชิญสถานการณ์ที่ตึงเครียดสมองจะปล่อยสารออกมายับยั้งความรู้สึกเจ็บปวดเอา ไว้ทำให้มนุษย์ต่อสู้กับความเจ็บปวดได้
3. ไม่มีน้ำตา
รู้ หรือปล่าวว่าตอนที่เราอายุ 4-5 เดือน เราร้องไห้ไม่มีน้ำตากันหรอกค่ะแม้จะร้องเสียงดังแค่ไหนก็ตามที่เป็นเช่นนี้ เพราะต่อมน้ำตาของคนเราจะพัฒนาขึ้นหลังจากเกิดมาแล้ว 4 -5 เดือนตอนนี้พวกเราคงจะร้องไห้มีน้ำตากันทุกคนแล้วนะค่ะ
4. หิวเพราะกลิ่น
พอกลิ่น หอมของอาหารลอยมาพวกเราคงเคยรู้สึกหิวตามกลิ่นนั้นไปด้วยใช่ไหมล่ะก็กลิ่น อาหารเข้าไปกระตุ้นระบบการย่อยอาหารของเราน่ะสิคะทำให้น้ำย่อยในปากและท้อง ทำงานเราจึงรู้สึกหิวทั้งๆที่บางครั้งเราไม่ต้องการกินอีกแล้ว
5. กระเพาะแข็งแกร่ง
ใน กระเพาะอาหารของเรามีน้ำย่อยที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูงมาก จนสามารถละลายสังกะสีได้แต่กรดเหล่านี้ไม่สามารถละลายผนังกระเพาะของเราได้ เนื่องจากทุกนาทีเซลล์ผนังกระเพาะเก่า 5000 เซลล์จะถูกเซลล์ใหม่แทนที่และเปลี่ยนเป็นเซลล์ใหม่ทั้งหมดทุกๆ 3 วัน
6. ท้องร้องจ๊อกๆ
เรา เคยได้ยินเสียงท้องร้องเมื่อรู้สึกหิวบ้างไหมสาเหตุที่ท้องร้องก็เพราะสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมความรู้สึกหิวของเราจะคอยจัดลำดับการทำงานของกระเพาะ อาหารและลำไส้ ถ้าในเลือดมีสารอาหารพอเพียงสมองก็จะสั่งให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลงแต่ เมื่อใดที่มีสารอาหารในเลือดน้อยระบบย่อยอาหารจะทำงานเร็วขึ้นเราจึงได้ยิน เสียงท้องร้อง
7. ตกใจจนหน้าซีด
เมื่อ เราตกใจหน้าจะซีดเนื่องจากเลือดบริเวณแก้มจะไหลย้อนกลับอย่างรวดเร็วเพื่อทำ หน้าที่ฉุกเฉินคือให้สารอาหารและออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อส่วนอื่นเนื่อง จากร่างกายไม่ได้เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องเผชิญความตกใจเมื่อเลือด จากแก้มไหลออกไป หน้าเราจึงซีด
8. เขินอาย
เมื่อ เรารู้สึกเชินอายหน้าเราก็จะแดง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและลำคอเพราะขณะที่เราเขินอาย เซลล์ประสาทจะถูกกระตุ้นให้ปล่อยสารเคมีที่พลังงานสูงชื่อว่าเปปไทด์ (PEPTIDE) ออกมา ทำให้เส้นเลือดที่แก้มและลำคอขยายตัวหน้าของเราจึงแดงมากกว่าปกติ
9. มาจากดวงดาว
ร่าง กายของเราประกอบด้วยอะตอมจำนวนมาก อะตอมเหล่านี้มาจากไหนนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่าอะตอมเกิดมาจากดวงดาว ที่ดับแล้วเมื่อ 5000 ล้านปีก่อนที่จะมีพระอาทิตย์เกิดขึ้นและดวงดวงนี้เคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ก่อนเมื่อโลกเกิดขึ้นเซลล์ของสิ่งมีชีวิตนี้ก็ได้พัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นคน
10. สารพัดสาร
เชื่อ หรือไม่ว่าในร่างกายของเรามีสารอยู่มากมาย เช่นมีฟอสฟอรัสในปริมาณที่มากพอจะทำหัวไม้ขีดไฟ 2,000 ก้าน มีไขมันพอที่จะทำสบู่ได้ 7 ก้อน มีเหล็กมากพอที่จะทำตะปูได้ 1 ตัวมีปูนขาวที่สามารถละลายน้ำแล้วนำไปทาห้องเล็ก ๆ ได้ 1 ห้อง มีซัลเฟอร์ 1 ช้อนชาและโลหะอีกประมาณ 30 กรัม
11. นอนแล้วสูง
การ นอนช่วยให้เราสูงขึ้นได้เพราะเมื่อเรายืนหรือนั่ง แผ่นกระดูกอ่อนที่กระดูกสันหลังจะถูกแรงดึงดูดของโลกกดลงการนอนช่วยให้แรงกด นี้หายไป แผ่นกระดูกอ่อนที่ถูกกดก็จะพองตัวทำให้เราสูงขึ้นได้อีก 8 มิลลิเมตรแต่เมื่อตื่นมาเราก็จะสูงเท่าเดิม
12. พลังกาย
ร่าง กายของคนเราแข็งแกร่งมากกว่าที่เราคิดเสียอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถใน การยกน้ำหนัก เช่น ถ้าเรานอนหลับโดยห่มผ้าหนัก 2.5 กิโลกรัม หายใจโดยเฉลี่ย 16 ครั้งต่อนาที และนอนนานประมาณ 8 ชั่วโมงทรวงอกของเราสามารถยกน้ำหนักได้ถึง 20 ตัน
13. ฉันทำไม่ได้
สิ่ง ที่ร่างกายของคนเราไม่สามารถทำได้ คือหายใจและกลืนอาหารไปพร้อม ๆ กันเพราะกระบวนการกลืนจะไปรบกวนกระบวนการหายใจด้วยการปิดกั้นอากาศไม่ให้ ผ่านเข้าไปขณะที่อาหารเคลื่อนจากปากไปยังคอหอยและผ่านไปที่กระเพาะอาหาร
14. มนุษย์พลังงาน
เชื่อ หรือไม่ว่าร่างกายของคนผลิตกระแสไฟฟ้าได้คนแต่ละคนจะมีพลังงานเทียบเท่ากับ การเปิดหลอดไฟฟ้าขนาด 120 วัตต์เพราะคนที่กินอาหารเข้าไปปริมาณ 2,500 แคลอรีในแต่ละวันจะให้พลังงานความร้อน 104 แคลอรีต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากระแสไฟฟ้าที่มีพลังงาน 120 วัตต์
15. กระพริบตา
ตลอด ชีวิตของคนเรานั้นเราต้องกระพริบตาถึง 250 ล้านครั้งทีเดียว เพราะเราจะต้องกระพริบตาทุก ๆ 6 วินาทีทำให้กล้ามเนื้อตาเคลื่อนไหวประมาณ 10,000 ครั้งต่อวันถ้าเปรียบกับการทำงานของกล้ามเนื้อขาแล้ว จะเท่ากับวิ่งระยะทาง 80 กิโลเมตรต่อวัน
16. สมองบริโภค
เชื่อ หรือไม่ว่าตอนแรกเกิดสมองของเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักตัวเท่านั้น แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 15 ปี สมองจะหนักถึง 1.4 กิโลกรัมและจะมีขนาดคงที่ สมองเติบโตได้เพราะใช้พลังงานจากอากาศที่เราหายใจเข้าไป 20% และใช้เลือดหล่อเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมดในร่างกาย
17. กระบวนการคิด
นัก วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า อิริยาบถต่าง ๆมีผลต่อการคิดและการตัดสินใจของมนุษย์ การนอนคิดจะทำให้ความคิดกว้างไกลการยืนทำให้ความคิดแคบลงสามารถตัดสินใจได้ เร็วขึ้นส่วนการนั่งเป็นอิริยาบถที่เหมาะกับการตัดสินใจที่ไม่รีบร้อนเท่าใด นัก
18. ผมงอก
โดย ปกติ ใน 1 สัปดาห์ผมจะงอกออกมา 2 มิลลิเมตรใน 1 วัน จะมีช่วงที่ผมงอกได้ดี 2 ช่วง คือ ระหว่างเวลา 10.00 11.00 น.และ 16.00 18.00 น. แต่ไม่ต้องเอากระจกไปส่องดูการงอกของเส้นผมหรอกนะเพราะมันแทบจะมองไม่เห็น เลย
19. เส้นขนแข็งแรง
โดย เฉลี่ยแล้วคนเราจะมีเส้นขนประมาณ 5 ล้านเส้นทั่วร่างกาย ยกเว้นบริเวณริมฝีปากฝ่ามือและฝ่าเท้า เส้นขนที่แข็งแรงที่สุดคือหนวด เชื่อหรือไม่ว่าหนวดแข็งแรงพอ ๆกับลวดทองแดงที่มีขนาดเท่ากันเลยทีเดียว
20. ตาที่สาม
เชื่อ หรือไม่ว่ามนุษย์มีสามตาตาที่สามนี้ก็คือต่อมไพเนียลซึ่งอยู่ด้านหลังของ กะโหลกศีรษะภายในต่อมมีสารเคมีที่มีชื่อว่าเซโรโตนินอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อกันว่าสารชนิดนี้ช่วยส่งผลให้มนุษย์มีการคิดอย่างสมเหตุสมผลนักวิทยา ศาสตร์จึงเปรียบต่อมนี้ว่าเป็นตาที่สามของมนุษย์